ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรและควรเลี่ยงอาหารประเภทไหน?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก
Table of contents

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้ ฉีดฟิลเลอร์ปาก กลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดฮิตที่ช่วยเนรมิตให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม มีรูปทรงสวยงาม น่าดึงดูดใจ ใคร ๆ ก็อยากมีปากที่สวยได้รูป แต่ก่อนตัดสินใจทำ หลายคนอาจมีความกังวลในเรื่องพื้นฐาน เช่น ฉีดปากเจ็บไหม? และการเตรียมตัวต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตนเองที่สำคัญ แต่รู้หรือไม่ว่าการจะรักษาผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานนั้น ส่วนสำคัญไม่ได้อยู่ที่ฝีมือแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย เพราะหากเผลอทำในสิ่งที่ห้ามอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปหรือสลายเร็วกว่าที่ควรจะเป็น วันนี้ OHM Clinic จะมาแชร์ ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และควรงดอาหารประเภทไหนเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราไปนาน ๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรบ้าง?

ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ฟิลเลอร์กำลังเริ่มเซตตัว การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการบวม ช้ำ หรือการเคลื่อนตัวของสารเติมเต็มได้ และนี่คือลิสต์ของสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง

1. ห้ามสัมผัสบริเวณปาก

การสัมผัสปากเป็นพฤติกรรมที่เราทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใหม่ ๆ คุณต้องระวังเรื่องนี้ให้มากที่สุด เพราะการสัมผัสอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่เกิดการเคลื่อนตัว หรือที่ร้ายกว่านั้นคือการนำเชื้อโรคเข้าสู่บริเวณที่ฉีด ทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมเหล่านี้

  • ห้ามแกะ เกา หรือดึงลอกหนังริมฝีปาก: ปล่อยให้ผิวได้ฟื้นตัวตามธรรมชาติ หากรู้สึกแห้งหรือมีอาการคันเล็กน้อยให้ทาลิปบาล์มตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • ห้ามนวด คลึงปาก: วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากข้อนี้สำคัญมาก เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้ง่าย
  • ห้ามเม้มปาก: การเม้มปากหรือทำกิจกรรมที่ต้องเกร็งริมฝีปากอย่างรุนแรงในช่วงแรก อาจส่งผลต่อการจัดเรียงตัวของฟิลเลอร์

2. ห้ามใช้หลอดดูดน้ำ

แม้จะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การดูดน้ำจากหลอดจะทำให้เกิดแรงดันในช่องปากและมีการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ปากอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ในระยะ 2-3 วันแรก ทางที่ดีควรจิบน้ำจากแก้วโดยตรงไปก่อน

3. ห้ามโดนแดดจัด หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง

ความร้อนเป็นศัตรูตัวฉกาจของฟิลเลอร์! ความร้อนสูง ๆ อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้นและทำให้อาการบวมแย่ลง ดังนั้น คุณควรงดการโดนแดดจัด ๆ รวมถึงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น

  • การอบซาวน่า
  • การเข้าห้องสตีม
  • การทำเลเซอร์ที่ต้องใช้ความร้อนบริเวณใบหน้า
  • การอาบน้ำอุ่นจัด

4. งดการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก

ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายหนักจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว เลือดสูบฉีดแรงขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำมากขึ้นหรือทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้

5. ห้ามสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อการหายของแผลเล็ก ๆ ที่เกิดจากการฉีด และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณปากได้ นอกจากนี้สารนิโคตินยังอาจขัดขวางกระบวนการสมานแผลตามธรรมชาติ

6. ห้ามนอนคว่ำหรือตะแคงในช่วงแรก

แนะนำให้นอนหงายและยกศีรษะให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อยในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อลดอาการบวมและป้องกันไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณริมฝีปาก

7. ห้ามล้างหน้าแปรงฟันอย่างรุนแรง

การทำความสะอาดใบหน้าและฟันควรทำด้วยความอ่อนโยนที่สุด หลีกเลี่ยงการแปรงฟันที่ต้องมีการถูหรือกระแทกริมฝีปาก และใช้แปรงสีฟันขนนุ่มไปก่อนในช่วงสัปดาห์แรก

8. ห้ามทำเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ รอบปาก

ควรงดการทำหัตถการที่ก่อให้เกิดความร้อนหรือการกดทับบริเวณใกล้เคียงกับปาก เช่น การนวดหน้า การทำทรีตเมนต์ หรือการทำเลเซอร์ผิวรอบปากไปก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์

9. ห้ามโกนขนบริเวณปาก

ควรงดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือการเสียดสีบริเวณริมฝีปากอย่างน้อย 1 สัปดาห์

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดอาหารประเภทไหนบ้าง?

นอกจากพฤติกรรมที่คุณต้องระวังแล้ว อาหารก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมาก หากคุณอยากให้ ทรงฉีดปากทรงสวยอยู่กับคุณไปนาน ๆ ก็ต้องใส่ใจเรื่องอาหารด้วย เพื่อลดการอักเสบและการสลายตัวของฟิลเลอร์

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

 

งดอาหารรสจัด

อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเผ็ด เปรี้ยว เค็มจัด จะกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบและบวมได้ง่าย และยังอาจทำให้เราต้องเม้มปากหรือทำกิจกรรมที่ต้องเกร็งริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

งดอาหารหมักดอง หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ

อาหารประเภทนี้มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรคสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่บริเวณฉีดได้

งดอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัด

เช่นเดียวกับการหลีกเลี่ยงความร้อนภายนอก อาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัดจะเร่งการสลายตัวของฟิลเลอร์ได้ และยังทำให้ปากที่บวมอยู่แล้วรู้สึกไม่สบายมากขึ้น

งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

แอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งจะยิ่งเพิ่มอาการบวมและรอยช้ำให้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 3 วันหลังการฉีด

งดสารเสริมอาหารหรือยาบางชนิด

ยาและอาหารเสริมบางตัว เช่น วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish Oil), แอสไพริน (Aspirin), และกลุ่มยาแก้ปวดลดอักเสบ (NSAIDs) มีผลทำให้เลือดออกง่ายขึ้นและทำให้เกิดรอยช้ำได้มาก ดังนั้นควรงดก่อนและหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์

การดูแลตัวเองที่ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ข้อห้ามต่าง ๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลตัวเองเท่านั้น ยังมีวิธีดูแลตัวเองในทางบวกก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและอยู่ทน เราขอแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ง่าย ๆ เหล่านี้

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ชอบน้ำ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี ทำให้ปากดูอวบอิ่มและฟูสวย

พักผ่อนที่เหมาะสม

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ลดอาการบวม และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น

ใช้ลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื้น

ใช้ลิปบาล์มที่แพทย์แนะนำเพื่อรักษาความชุ่มชื้นบริเวณริมฝีปาก และลดโอกาสที่ริมฝีปากจะแห้งแตกจนอาจนำไปสู่การแกะเกา

มุมมองแพทย์: หากเผลอทำข้อห้ามไปแล้ว แก้อย่างไร?

จากความเห็นของคุณหมอโอม หรือ นายแพทย์ ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าานการฉีดฟิลเลอร์ปากของ OHM Clinic และมีประสบการณ์ในวงการความงามมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ได้ให้ความเห็นว่า 

“หากคนไข้เผลอทำข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปากไปโดยไม่ตั้งใจ สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกครับ ให้สังเกตอาการของตัวเอง หากอาการที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการบวม ช้ำเล็กน้อย และไม่รุนแรง ให้ประคบเย็นและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดต่อไป แต่หากพบว่ามีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น ปวดมาก มีการเปลี่ยนสีของผิวบริเวณปาก มีอาการปวดร้าว หรือมีก้อนแข็ง ๆ ที่บริเวณปาก ให้รีบติดต่อคลินิกหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาทันทีครับ เพื่อให้แพทย์ประเมินและให้การรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งที่ OHM Clinic เรามีทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอครับ”

สรุป

การมีริมฝีปากที่สวยงามจากการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ความสำเร็จของมันจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อคุณใส่ใจในทุกรายละเอียดของการดูแลตัวเองหลังทำ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยง ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่เราได้รวบรวมมาให้แล้ว การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณได้ปากที่สวยเป๊ะ เข้าที่เร็ว และฟิลเลอร์อยู่ได้นานคุ้มค่ากับที่คุณตัดสินใจเข้ามาปรึกษาที่ OHM Clinic 

สนใจสอบถามหรือเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ OHM Clinic หรือต้องการสอบถามฉีดฟิลเลอร์ปากราคาเท่าไหร่ โปรดติดต่อ

LINE: LINE

สาขา เกษตรนวมินทร์

CALL: 085-1685656

สาขา 101 True digital Park

CALL: 085-1888855

สาขา Siam Square One

CALL : 083-9829292

 

 

 

 

ข้อมูลโดย

นายแพทย์ ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช

รายละเอียด