แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากกับกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีความปลอดภัยสูงและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่ทั้งนี้การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์จะช่วยลดอาการข้างเคียงที่ตามมาและยังช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปสวยอยู่ได้นาน ในทางกลับกันหากเราไม่พยายามดูแลตัวเองให้ดีก็อาจทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้ผลเท่าที่ควรและอาจเป็นอันตรายได้
ฉีดปากกี่วันหายบวม
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่ อาการบวม นอกจากนี้อาจมีอาการกดเจ็บ หรือมีรอยฟกช้ำบริเวณริมฝีปากหลังการทำหัตถการ ถ้าถามว่าฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นประมาณ 1-2 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ และจะค่อย ๆ ลดลงจนหายเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
แม้ว่าผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์จะเล็กน้อยก็ตามแต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้อาการข้างเคียงยืดเยื้อ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้
สิ่งที่ควรทำ
- ใช้น้ำแข็งประคบที่ริมฝีปากเพื่อลดอาการบวม คัน ฟกช้ำ และอาการเจ็บปวดอื่น ๆ
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีและยังช่วยให้ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นาน
- รับประทานอาหารที่เคี้ยวง่ายจะช่วยลดการรบกวนบริเวณริมฝีปาก
- ดื่มน้ำโดยตรงจากแก้วเพราะการใช้หลอดดูดน้ำจะทำให้เกิดแรงกดที่ริมฝีปาก
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงการทาลิปสติกและลิปบาล์ม แล้วต้องรอหลังฉีดปากกี่วันทาลิปได้ก็ควรรออย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการฉีด พยายามอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมปาก รวมทั้งการนวด บีบ ดึงหรือลอกหนังริมฝีปากซึ่งจะทำให้ลดความชุ่มชื้นของริมฝีปาก
- หลีกเลี่ยงการรับเกลือและโซเดียมที่มากเกินไปเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
- หลีกเลี่ยงการเสริมวิตามินอีเป็นเวลา 2-3 วัน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการช้ำได้
การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำที่ถูกต้องหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยลดอาการข้างเคียง อีกทั้งทำให้สารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปคงรูปสวยงามและสามารถอยู่ได้นาน ดังนั้นก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ก็ควรวางแผนเตรียมพร้อมเพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำเสียก่อนเพื่อให้ได้รูปปากอวบอิ่มสวยงามตามต้องการ หากคุณต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปากก็สามารถสอบถามได้กับคลินิก OHM