ในแวดวงอุตสาหกรรมความงามได้เน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่และทันสมัย เพื่อการดูแลผิวและจัดการกับปัญหาผิวอย่างได้ผล เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสมัยนี้ที่ต้องการลดขั้นตอนการบำรุงผิวและลดความเสี่ยงจากการทดลองผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ได้มาตรฐานลง เพื่อให้มีเวลาในการจัดการกับเรื่องต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น
เทรนด์ของการดูแลผิวในปี 2024 นี้ยังมุ่งเน้นในเรื่องของการดูแลรักษาผิวให้แข็งแรง สุขภาพดี และเห็นผลได้ในระยะยาว ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจและอัพเดทในเรื่องของเทรนด์ดูแลผิวและความงามแห่งปีกัน
เทรนด์ Skin Minimalism
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเทรนด์ skin Minimalism คืออะไร ลักษณะการดูแลผิวแบบ Skin Minimalism จะเน้นในเรื่องของการลดขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวลง ใช้น้อยแต่ได้ผลมาก เทรนด์นี้จะสะท้อนถึงความต้องการชีวิตที่เรียบง่ายของคนในยุคนี้ ลดการทำลายผิวหรือการทำลายเกราะป้องกันผิว เพื่อให้ได้ผิวสุขภาพดีแบบยั่งยืน
เทรนด์ความงามแบบ Skin Minimalism จะเน้นความสวยตามลักษณะผิวของตัวเอง จากที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดรอยบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า ก็หันมาบำรุงผิวจริงให้แข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น และการดูแลผิวให้สุขภาพดีขึ้นได้จะต้องเน้นการรักษาความสะอาด รักษาความชุ่มชื้นของผิวและการป้องกันผิวจากแสงแดด และให้ผิวได้พักผ่อนจากการแต่งหน้าจัดๆ ดังนั้นจึงเกิดความต้องการในการใช้บริการคลินิกเสริมความงามเพื่อการทำความสะอาดผิว ฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหรือลดริ้วรอยใต้ตาและกระชับผิวมากขึ้น
เทรนด์ความงามดูแลผิว Exosome
เอ็กโซโซม (Exosome) ถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรมของการฟื้นฟูและบำรุงร่างกาย โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ผู้ที่มีปัญหาหัวล้านและผู้ที่มีอาการปวดตามข้อเข่า ในด้านของความงามได้นำ exosome มาใช้เพื่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหรือโครงสร้างผิวที่เสื่อมลงโดยตรง โดยจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยฟื้นฟูผิวจากแดดเร่งด่วน เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวในระดับลึก
เทรนด์นี้เหมาะสำหรับคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลผิวตัวเองและต้องการฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติอย่างเร่งด่วน เพราะสามารถช่วยรักษาแผลเป็น กระชับรูขุมขน ลดการอักเสบและผดผื่นคัน ยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิวลงได้ เทรนด์การดูแลผิวด้วย Exosome เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นร่างกาย
เทรนด์นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ผิวหน้าดูเด็ก
ทั้ง Sculptra และ Radiesse ต่างก็มีตัวยา Biostimulator ทั้งคู่ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อหรือคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งคอลลาเจนเหล่านี้จะเข้าไปเต็มเติมร่องต่างๆ บนใบหน้าให้ดูเต็มขึ้นแทนการฉีดฟิลเลอร์ แม้ทั้งคู่จะทำงานเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกัน แต่มีผลการวิจัยหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า Sculptra และ Radiesse สามารถกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินได้มากพอๆ กัน
โดย Sculptra มักจะใช้สำหรับฉีดด้านข้างและหน้าแก้ม เช่น ขมับ ขากรรไกร กรามและหน้าแก้ม ส่วนการฉีด Radiesse มักจะถูกนำมาใช้ฉีดบริเวณร่องแก้ม คางและร่องน้ำหมาก ซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ได้สัมผัสกับผิวเด็กและมีสุขภาพดีอีกครั้ง
เทรนด์การดีท็อกหน้าล้างสารพิษ lymphatic drainage
ผู้คนในสังคมตัวเมืองต่างเผชิญกับมลพิษทางอากาศทุกวัน ทำให้เกิดปัญหาผิว ความเครียดและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง เทรนด์ของการล้างสารพิษออกจากผิวและร่างกายจึงเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงอีกเทรนด์หนึ่งเช่นกัน การดีท็อกด้วยวิธี Lymphatic Drainage จะกระตุ้นระบบต่อมน้ำเหลือง ระบบขับของเสียของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยบรรเทาความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ขับสารพิษออกจากร่างกาย ปรับสมดุลให้ร่างกายและผิวดูสดใสแข็งแรงขึ้น
เทรนด์การเติมอาหารผิว Nad+ therapy และ vitamin drip
เทรนด์การเติมอาหารผิวเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจชะลอวัย ชะลอการเสื่อมของร่างกาย ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบเผาผลาญในการลดน้ำหนัก และผู้ที่ต้องการมีสุขภาพผิวที่ดีและกระจ่างใสขึ้น การทำ Vitamin Drip หรือเติมอาหารผิว Nad+ Therapy เป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพแนวใหม่ของยุคนี้ เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้เกือบ 100% และเห็นผลได้เลยทันที เพราะการเติมวิตามินเป็นวิธีการนำสารอาหารเข้าสู่ร่างกายที่รวดเร็วและง่ายกว่าการทานอาหาร โดยเป็นการให้วิตามินผ่านสายน้ำเกลือเข้าสู่กระแสเลือดตามคำแนะนำของแพทย์
เทรนด์การกระตุ้นเซลล์ Growth factor
Growth Factor เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ เป็นเทรนด์ความงามด้านการดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำและปัญหาของผิวหน้าด้านอื่นๆ ที่สะสมมายาวนานจนไม่สามารถซ่อมแซมไดเองตามธรรมชาติได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
โกรทแฟคเตอร์จะทำหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมผิวหน้าด้วยการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวกลับมาอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ลดร่องรอยลึกบนใบหน้า รวมถึงรอยแผลเป็นต่างๆ ให้จางลง การรักษาผิวหน้าด้วยวิธีนี้เป็นการสกัดโกรทแฟคเตอร์จากเลือดของผู้เข้ารับการรักษาเอง ในรูปของเกล็ดเลือดความเข้มข้นสูง PRP หรือ Platelet Rich Plasma โดยทุกขั้นตอนจะได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
สรุป
เทรนด์ความงามแห่งปี 2024 ยังคงมุ่งเน้นในเรื่องของการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส ยกกระชับหน้าและป้องกันปัญหาผิวหน้าที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นจึงเน้นที่การดูแลงานผิวจากภายในให้ดูสุขภาพดี ลดขั้นตอนการบำรุงผิวให้น้อยลง แต่สามารถเผยผิวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติยาวนานขึ้น และคาดว่าเทรนด์ความงามเหล่านี้จะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
