ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร รวมข้อมูลฉีดปาก พร้อมราคาและทรงปากยอดนิยม
หากคุณคิดว่าริมฝีปากของตัวเองดูขาดความอิ่มเอิบ ไม่มีรูปทรงที่ต้องการ หรือต้องการปรับเปลี่ยนขนาดปากให้ดูเป็นสัดส่วนกับใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ ในปัจจุบัน การฉีดปาก ด้วยฟิลเลอร์ได้กลายเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
บทความนี้ OHM Clinic จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ปาก อย่างครบถ้วน ตั้งแต่หลักการทำงาน ขั้นตอนการฉีด ไปจนถึง ราคาฉีดฟิลเลอร์ปาก และคำตอบสำหรับคำถามยอดฮิตที่ว่า ฉีดปากเจ็บไหม รวมทั้งข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้คุณได้ปากสวยได้รูปอย่างปลอดภัย
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร หลักการทำงานและชนิดของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ปาก หรือที่เรียกกันว่า Filler ปาก เป็นสารเจลใสที่ใช้ในการปรับรูปร่างและเพิ่มปริมาตรให้กับริมฝีปาก โดยหลักการทำงานจะเป็นการเติมสารฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวหนัง ทำให้ปากดูอิ่มเอิบและมีรูปทรงที่ต้องการมากขึ้น สารฟิลเลอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว จึงมีความปลอดภัยสูงและไม่ทำให้เกิดการแพ้
ทำไมฟิลเลอร์ปากจึงเป็นที่นิยม
การฉีดปากด้วยฟิลเลอร์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะหลายเหตุผล ประการแรก คือความสะดวกรวดเร็วของหัตถการ โดยการฉีดแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 30-45 นาที และสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที ประการที่สอง คือผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนกับการศัลยกรรมที่อาจดูแข็งแกร่งเกินไป นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับปาก
สำหรับการเลือกฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสม ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มและยืดหยุ่น เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเมื่อขยับปาก ฟิลเลอร์สำหรับปากที่ได้รับการแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ Juvederm, Restylane, และ Belotero ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA และมีความปลอดภัยสูง
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ก่อนการฉีด
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก คุณสามารถตรวจสอบความแท้ของฟิลเลอร์ได้หลายวิธี ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้จะมีฉลากภาษาไทยที่ชัดเจน มีเลขที่จดทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และมีรหัส QR Code สำหรับตรวจสอบความแท้ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์จะมีการปิดผนึกที่สมบูรณ์ และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะเปิดบรรจุภัณฑ์ตรงหน้าผู้รับบริการ
เทรนด์ทรงปากฮิต 2025 – เลือกทรงไหนให้เข้ากับหน้า
ปี 2025 มาพร้อมกับเทรนด์ทรงปากใหม่ที่หลากหลาย แต่ละทรงมีความโดดเด่นและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ต่างกัน การเลือกทรงปากที่เข้ากับรูปหน้าและบุคลิกภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากของคุณดูเป็นธรรมชาติและสวยงามที่สุด
ทรงปากเกาหลี – สายเกาที่ฮิตต่อเนื่อง
ทรงปากเกาหลีหรือสายเกายังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2025 ซึ่งเป็นทรงปากที่ทำให้หน้าหวาน น่ารัก ด้วยริมฝีปากที่มีความอวบอิ่มแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะริมฝีปากล่างที่ดูเหมือนลูกเชอร์รี่ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวา ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูอ่อนเยาว์และเป็นมิตร การฉีดแบบสายเกามักใช้ฟิลเลอร์ปริมาณไม่มาก เน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่าความดราม่าติก
ทรงปากสายฝอ – เซ็กซี่และมั่นใจ
สำหรับสาวที่ชอบลุคเซ็กซี่และมั่นใจ ทรงปากสายฝอยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเน้นความอวบอิ่มของริมฝีปากทั้งบนและล่าง มีขอบปากที่ชัดเจนและคมชัด ให้ความรู้สึกที่โดดเด่นและดึงดูดสายตา ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าโครงชัดและต้องการเพิ่มความดราม่าติกให้กับลุค การฉีดแบบสายฝอมักใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากกว่า เพื่อให้ได้ปากที่อวบอิ่มและเต็มที่สุด
ทรงปากกระจับ – คลาสสิกที่ไม่มีวันเอาท์
ทรงปากกระจับยังคงเป็นคลาสสิกที่ไม่มีวันล้าสมัย โดยเน้นการสร้างรูปทรงที่คล้ายธนูคิวปิด (Cupid’s Bow) ให้ชัดเจนขึ้น ริมฝีปากบนจะมีรูปทรงเป็นตัว M ที่สวยงาม ส่วนริมฝีปากล่างจะอวบอิ่มเป็นสัดส่วน ทรงนี้ช่วยให้ใบหน้าดูหวานหยก ละมุน และเป็นที่ต้องการของหลายคนที่ชื่นชอบความคลาสสิก การฉีดแบบกระจับต้องใช้เทคนิคพิเศษในการสร้างจุดยอดและร่องลึกให้ชัดเจน
ทรงปากมาสด้า – ทรงปากคมกำลังมาแรง
ทรงปากมาสด้าเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2025 โดยได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงโลโก้รถยนต์มาสด้า ริมฝีปากบนจะมีรูปทรงเป็นตัว M ที่แหลมคมและมีมุมที่ชัดเจนกว่าทรงกระจับแบบคลาสสิก ทำให้ดูโมเดิร์นและมีเอกลักษณ์ ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคที่แตกต่าง มีความมั่นใจ และชอบการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ การฉีดแบบมาสด้าต้องใช้ความชำนาญพิเศษในการสร้างมุมและจุดยอดที่คมชัด
เปรียบเทียบยี่ห้อฟิลเลอร์ชั้นนำ – เลือกแบรนด์ไหนดี
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์และความคงทนของการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องเนื้อสัมผัส ความคงทน และราคา การทำความเข้าใจในความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
Restylane – ผู้นำจากสวีเดนด้วยเทคโนโลจี NASHA
Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่ใช้เทคโนโลจี NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ทำให้มีความคงตัวและความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะ Restylane Kysse ที่ออกแบบมาเพื่อการฉีดปากโดยเฉพาะ มีเนื้อละเอียดแต่คงทน สามารถสร้างขอบปากที่ชัดเจนและเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ความคงทนอยู่ที่ประมาณ 12-18 เดือน
Juvederm – นวัตกรรมจากอเมริกาด้วย Vycross Technology
Juvederm จากอเมริกาใช้เทคโนโลจี Vycross ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและกระจายตัวได้เป็นธรรมชาติ Juvederm Ultra Plus เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบสายฝอ ส่วน Juvederm Volite เหมาะกับการปรับปรุงความชุ่มชื้นและเพิ่มปริมาตรเล็กน้อย ความคงทนประมาณ 9-15 เดือน
Belotero – ความละเอียดสูงจากสวิตเซอร์แลนด์
Belotero มาจากสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดเด่นที่เนื้อละเอียดมาก สามารถกลมกลืนกับเนื้อเยื่อได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการแก้ไขรายละเอียดและการปรับปรุงความชุ่มชื้น Belotero Balance มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับการขยับของปาก ความคงทนประมาณ 6-12 เดือน
การเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับความต้องการ
การเลือกฟิลเลอร์ไม่ควรดูแค่ราคาหรือแบรนด์เดียว แต่ควรพิจารณาจากความต้องการเฉพาะตัว หากต้องการปากอวบอิ่มแบบดราม่าติก Juvederm Ultra Plus อาจเป็นตัวเลือกที่ดี หากต้องการความเป็นธรรมชาติและคงทน Restylane Kysse น่าสนใจ ส่วนหากต้องการปรับปรุงรายละเอียดอย่างละเอียดอ่อน Belotero อาจเหมาะสมที่สุด
ขั้นตอนการเตรียมตัวและการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การเตรียมความพร้อมก่อนการ ฉีดปาก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงต่างๆ ขั้นตอนการเตรียมตัวและการฉีดที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้รับ
การเตรียมตัวก่อนการฉีด
ก่อนฉีด Filler ปากควรศึกษาข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือสารต่างๆ ให้แพทย์ทราบ และหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHA/BHA บริเวณริมฝีปากเป็นเวลา 2-3 วัน นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อให้ผิวหนังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ปลอดภัย
กระบวนการฉีดปากจะเริ่มจากการให้แพทย์ตรวจสอบและประเมินรูปทรงปากปัจจุบัน จากนั้นจะทำการออกแบบรูปทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้าของคุณ ขั้นตอนต่อไปคือการทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดและทายาชาเพื่อลดความเจ็บปวด การฉีดฟิลเลอร์จะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยแพทย์จะฉีดในจุดต่างๆ เพื่อให้ได้รูปทรงที่สมมาตรและเป็นธรรมชาติ หลังการฉีด แพทย์จะนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตัวเองหลังการฉีด
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 6 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ ควรใช้ลิปบาล์มที่มี SPF เพื่อป้องกันรังสียูวี และหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกที่มีสีเข้มเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแรก นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงอาหารเค็มเป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อป้องกันการบวม
ไทม์ไลน์การหายและผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาการฟื้นฟูและการเปลี่ยนแปลงของปากหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม แต่ละช่วงเวลาจะมีการเปลี่ยนแปลงและข้อควรปฏิบัติที่แตกต่างกัน
ช่วงเวลาทันทีหลังฉีด (0-24 ชั่วโมง)
วันแรกหลังฉีด:
- อาการบวมและแดงเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ
- อาจรู้สึกเจ็บหรือคันบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย
- ปากจะดูใหญ่กว่าผลลัพธ์สุดท้ายประมาณ 20-30%
- หลีกเลี่ยงการจูบ การกิน การดื่มของร้อน
- ใช้น้ำแข็งประคบเบาๆ ช่วยลดบวม
ช่วงการฟื้นฟูเบื้องต้น (2-7 วัน)
สัปดาห์แรก:
- การบวมจะลดลงประมาณ 50-70%
- สีแดงจะจางลงและหายไปภายใน 3-5 วัน
- เริ่มเห็นรูปทรงที่แท้จริงของฟิลเลอร์
- สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ยังต้องระวังการกระแทก
- เริ่มทาลิปสติกได้ตั้งแต่วันที่ 3
ช่วงการเข้าที่ (1-2 สัปดาห์)
สัปดาห์ที่ 2:
- ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่และกลมกลืนกับเนื้อเยื่อ
- ความรู้สึกแข็งหรือเป็นก้อนจะลดลง
- รูปทรงปากเริ่มดูเป็นธรรมชาติขึ้น
- สามารถประเมินผลลัพธ์เบื้องต้นได้
- ยังควรหลีกเลี่ยงการนวดแรงๆ
ผลลัพธ์สมบูรณ์ (2-4 สัปดาห์)
เดือนแรก:
- เห็นผลลัพธ์สุดท้าย 100%
- ฟิลเลอร์เข้าที่สมบูรณ์แล้ว
- ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเต็มที่
- สามารถประเมินว่าต้องการเติมเพิ่มหรือไม่
- ควรมานัดติดตามผลกับแพทย์
การเลือกคลินิกและแพทย์ ฉีดปาก อย่างปลอดภัย
การเลือกคลินิกและแพทย์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการฉีดปากอย่างปลอดภัย คลินิกที่ดีและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการและมีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดผลข้างเคียง
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
คลินิกที่ดีสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ชัดเจนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครันและทันสมัย คลินิกควรมีการเก็บรักษาฟิลเลอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและมีการติดตามดูแลผู้รับบริการหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด OHM Clinic เป็นหนึ่งในคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการ
การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์
แพทย์ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดปากควรเป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีการอบรมเฉพาะทางด้านความงามและการฉีดฟิลเลอร์ และมีประสบการณ์การฉีดที่ยาวนาน แพทย์ที่ดีจะให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ไม่รีบเร่งในการให้บริการ และมีการติดตามดูแลผลหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ แพทย์ควรมีผลงานที่สามารถแสดงให้เห็นได้และมีการรับรองจากองค์กรวิชาชีพ
คำถามที่พบบ่อย
การฉีดฟิลเลอร์ปากมักมีคำถามต่างๆ ที่ผู้สนใจอยากทราบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเจ็บปวด ราคา หรือผลลัพธ์ที่ได้รับ คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม? พร้อมเทคนิคการลดความเจ็บปวด
สำหรับคำถามที่ว่า ฉีดปากเจ็บไหม คำตอบคือการฉีดฟิลเลอร์ปากอาจทำให้รู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้ ความเจ็บจะคล้ายกับการถูกมดกัดหรือการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเจ็บปวด แพทย์จะทายาชาเฉพาะที่ก่อนการฉีด และใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมาก นอกจากนี้ ฟิลเลอร์บางแบรนด์มี Lidocaine ผสมอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด
ราคาฉีดฟิลเลอร์ปาก เริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น แบรนด์ของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ และคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 16,900 บาทต่อการฉีด 1 cc แต่อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิก ราคาที่สูงขึ้นมักจะสอดคล้องกับคุณภาพของฟิลเลอร์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ ควรระวังราคาที่ถูกผิดปกติ เพราะอาจเป็นการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน
การฉีดปาก 1 cc จะเห็นผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
การฉีดปาก 1 cc จะให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน โดยปากจะดูอิ่มเอิบและมีรูปทรงที่สวยงามขึ้น สำหรับผู้ที่มีปากบางหรือปากเล็ก การฉีด 1 cc จะช่วยเพิ่มปริมาตรให้เหมาะสมและเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด แต่อาจมีการบวมเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรก ผลลัพธ์สุดท้ายจะเห็นได้ชัดเจนหลังจากการบวมลดลง
ฟิลเลอร์ปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์ปากมีความคงทนประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ อัตราการเผาผลาญของแต่ละบุคคล และการดูแลหลังการฉีด ปากเป็นส่วนที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยเนื่องจากการพูด กิน และยิ้ม จึงทำให้ฟิลเลอร์ย่อยสลายเร็วกว่าบริเวณอื่นๆ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มลดลง สามารถเติมได้อีกครั้งเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่
มีข้อควรระวังหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากอะไรบ้าง?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อควรระวังหลายประการ ได้แก่ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดแรงๆ หลีกเลี่ยงการไปซาวน่าหรือสระว่ายน้ำในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรใช้ลิปบาล์มที่มี SPF เพื่อป้องกันแสงแดด และถ้ามีการบวมหรือไม่สบายสามารถประคบเย็นเบาๆ ได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถใช้ควบคู่กับหัตถการอื่นได้ไหม?
การฉีดปากสามารถทำควบคู่กับหัตถการความงามอื่นๆ ได้ เช่น การฉีดโบท็อกซ์ การทำ Thread Lift หรือการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่น แต่ควรมีการวางแผนที่เหมาะสมและปฏิบัติโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรวมหัตถการหลายอย่างอาจช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการพักฟื้นและความปลอดภัย
การฉีดปากแต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่?
กระบวนการฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที รวมขั้นตอนการปรึกษา การเตรียมตัว การทายาชา และการฉีด หลังการฉีดเสร็จ ควรพักสังเกตอาการเป็นเวลา 15-30 นาที เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบผลลัพธ์และแก้ไขรูปทรงเบื้องต้นได้ ทั้งหมดรวมกันประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
การฉีดฟิลเลอร์ปากปลอดภัยไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นอาการชั่วคราว เช่น การบวม รอยช้ำเล็กน้อย หรือความรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 3-7 วัน ผลข้างเคียงร้ายแรงเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่หากเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
มีโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจสำหรับฟิลเลอร์ปากหรือไม่?
คลินิกส่วนใหญ่มักมีโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจพิเศษสำหรับ Filler ปาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ อาจมีการลดราค การแถมหัตถการอื่น หรือการจัดแพ็กเกจรวม OHM Clinic มีโปรโมชั่นและแพ็กเกจที่หลากหลาย สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ LINE Official Account หรือ Instagram ของคลินิก
สามารถผ่อนชำระค่าบริการฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม?
ปัจจุบันคลินิกหลายแห่งรวมถึง OHM Clinic มีบริการผ่อนชำระสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อช่วยให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงหัตถการความงามได้ง่ายขึ้น วิธีการผ่อนชำระอาจเป็นการผ่อนผ่านบัตรเครดิต การผ่อนผ่านแอปพลิเคชันทางการเงิน หรือการผ่อนโดยตรงกับคลินิก ควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการผ่อนชำระก่อนการรับบริการ
พร้อมเปลี่ยนปากให้สวยได้รูปอย่างปลอดภัย
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก แล้ว หากคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงรูปทรงปากให้สวยงามและเป็นธรรมชาติ การเลือกคลินิกและแพทย์ที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญที่สุด OHM Clinic พร้อมให้บริการฉีดปากด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีทันสมัย
ไม่ว่าคุณจะต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอิ่มเอิบมากขึ้น แก้ไขความไม่สมมาตร หรือเพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้ม เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนการรับบริการจนถึงหลังการฉีด สามารถติดต่อเราได้ที่สาขาต่างๆ ของ OHM Clinic
จองคิวได้ที่:
- LINE: @ohmclinic (ตอบภายใน 15 นาที)
- Tel: 085-168-5656 (สาขา Nirvana เกษตร-นวมินทร์)
- Tel: 085-188-8855 (สาขา True Digital Park)
- Tel: 083-982-9292 (สาขา Siam Square One)
- Instagram: @ohmclinic
สาขาที่ให้บริการ:
Nirvana เกษตร-นวมินทร์: 288/30 ถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. 10240 เปิด 11:00-19:00 น.
True Digital Park: 101 True Digital Park ชั้น 2 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. 10260 (BTS ปุณณวิถี) เปิด 12:00-20:00 น.
Siam Square One: Siam Square One ชั้น 6 เลขที่ 388 ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. 10330 (BTS สยาม) เปิด 12:00-20:00 น.
เริ่มต้นเส้นทางสู่ปากสวยได้รูปที่คุณใฝ่ฝันกับ OHM Clinic วันนี้ เพราะความสวยความงามที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยคือสิ่งที่คุณสมควรได้รับ