ฉีดปากเจ็บไหม? ทุกคำถามเรื่อง “ความเจ็บปวด” ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก
Table of contents

เคยสงสัยไหมว่าการมีริมฝีปากอวบอิ่มที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดมากน้อยแค่ไหน? บทความนี้ นายแพทย์ ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช หรือคุณหมอโอม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก OHM Clinic จะมาตอบคำถามว่า ‘ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม’ พร้อมเจาะลึกทุกแง่มุมของความเจ็บปวดจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก และมีวิธีจัดการอย่างไรบ้าง เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณมั่นใจก่อนตัดสินใจทำ

ฉีดปากเจ็บไหม? เจ็บกี่วัน

โดยทั่วไปแล้ว ความเจ็บจากการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยและอยู่ในระดับที่ทนได้ครับ เนื่องจากมีการใช้ยาชาช่วยบรรเทาอาการ แต่หลังการฉีดเสร็จสิ้น ริมฝีปากจะยังมีอาการบวมและตึงอยู่บ้าง ซึ่งความรู้สึกนี้จะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับเวลา ดังนี้

  • ช่วง 0-24 ชั่วโมงแรก (ปวดตึง เล็กน้อยถึงปานกลาง): เป็นช่วงที่อาการบวมและตึงจะชัดเจนที่สุด อาจรู้สึกปวดหน่วง ๆ คล้ายกับการฟกช้ำหรือถูกกระแทก แต่เป็นความเจ็บที่ควบคุมได้

อ่านบทความ “ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน” เพิ่มเติม

  • ช่วง 24-72 ชั่วโมง (ปวดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด): อาการปวดจะเริ่มทุเลาลงมาก ความรู้สึกตึงและบวมจะค่อย ๆ ลดลง คุณอาจยังรู้สึกได้บ้างเมื่อสัมผัสริมฝีปาก หรือเมื่อยิ้ม
  • หลัง 72 ชั่วโมง (มักจะหายปวดแล้ว หรือตึงเล็กน้อย): โดยส่วนใหญ่อาการปวดจะหายไปเกือบทั้งหมดแล้ว อาจมีเพียงความตึงเล็กน้อยเหลืออยู่ ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน

ดังนั้น ฉีดปากเจ็บไหม ในระยะยาว? คำตอบคือไม่เจ็บเลย อาการปวดจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ หลังทำเท่านั้นครับ

ปัจจัยที่ทำให้ “ความเจ็บ” แตกต่างกัน

ทำไมบางคนถึงบอกว่าเจ็บน้อยมาก แต่บางคนก็บอกว่ารู้สึกเจ็บมากกว่า? ความรู้สึกเจ็บปวดจากการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่แตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ความเจ็บ

1. เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์

ปัจจัยแรกและสำคัญที่สุดคือ “แพทย์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะใช้เทคนิคการฉีดที่นุ่มนวล แม่นยำ และรู้จุดที่ทำให้เจ็บน้อยที่สุด การใช้เข็มที่มีขนาดเหมาะสม การควบคุมปริมาณยา และความชำนาญในการเดินยาชา ล้วนมีผลอย่างมากต่อความเจ็บที่คุณจะรู้สึก

2. ชนิดของฟิลเลอร์และสารผสมในตัวยา

ฟิลเลอร์บางยี่ห้อและบางรุ่นมีการผสมยาชา (Lidocaine) เข้าไปในเนื้อเจลอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างและหลังการฉีดได้อย่างดีเยี่ยม คุณสามารถสอบถามแพทย์ได้ว่าฟิลเลอร์ที่ใช้มีส่วนผสมของยาชาหรือไม่

3. สภาพร่างกายและระดับความอดทนของแต่ละบุคคล

ระดับความไวต่อความเจ็บปวด (Pain Threshold) ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจมีความอดทนสูง จึงรู้สึกเจ็บน้อยกว่า แม้จะได้รับเทคนิคเดียวกันก็ตาม รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอก่อนมาฉีดก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและลดความไวต่อความเจ็บได้

4. บริเวณที่ฉีดในส่วนของริมฝีปาก

ตำแหน่งที่ฉีดก็มีผลต่อคำถามที่ว่า ฉีดปากเจ็บไหม? ครับ เพราะเนื้อเยื่อในแต่ละส่วนมีความหนาแน่นของเส้นประสาทต่างกัน

  • ขอบปาก (Lip Border): มักจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะเป็นบริเวณที่แพทย์ต้องใช้ความแม่นยำสูงในการกำหนดรูปทรง
  • เนื้อปาก (Lip Body): มักจะรู้สึกตึงมากกว่าเจ็บ เนื่องจากมีเนื้อเยื่อเยอะ และบริเวณนี้มักเป็นจุดหลักในการเพิ่มวอลลุ่ม

ที่ OHM Clinic เรามีบริการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ และมียี่ห้อฟิลเลอร์ต่าง ๆ ให้เลือก เราพร้อมให้คำปรึกษาหากคุณกังวลกับความเจ็บปวดหลังฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและไม่เจ็บจนเกินไปครับ

ยาชาช่วยได้กี่เปอร์เซ็นต์? เทคนิคจัดการความเจ็บปวดที่คุณต้องรู้

ไม่ต้องกังวลว่าว่าฉีดปากจะเจ็บจนเกินไป เพราะเทคโนโลยีการฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีตัวช่วยจัดการความเจ็บปวดที่น่าประทับใจ ซึ่งยาชาเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การฉีดเป็นเรื่องง่าย

  • ยาชาชนิดทา: เป็นยาชามาตรฐานที่ใช้ทาบริเวณริมฝีปากก่อนเริ่มการฉีดประมาณ 30-45 นาที เพื่อลดความเจ็บปวดบนผิวชั้นนอก
  • ยาชาชนิดฉีด/บล็อกยาชา: เป็นการฉีดยาชาเข้าบริเวณเหงือกใกล้กับเส้นประสาทที่มาเลี้ยงริมฝีปาก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บได้ดีที่สุด ทำให้คุณแทบไม่รู้สึกอะไรเลยระหว่างการฉีด
  • Lidocaine ในฟิลเลอร์: ดังที่กล่าวไปแล้ว ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะมี Lidocaine ผสมอยู่แล้ว เมื่อเริ่มฉีด ตัวยาชานี้จะออกฤทธิ์ทันที ทำให้ความเจ็บลดลงอย่างต่อเนื่อง

วิธีการลดความเจ็บปวดและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การเตรียมตัวที่ดีก่อนและหลังการฉีดจะช่วยลดอาการปวดบวมได้มาก และทำให้คุณตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจว่าฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บแค่ตึง ๆ ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด ซึ่งวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

 

ฉีดปาก

 

1. งดวิตามินหรือยาที่ทำให้เลือดออกง่ายก่อนฉีดปาก

หลีกเลี่ยงแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, น้ำมันปลา, วิตามินอี, หรือสมุนไพรบางชนิด (เช่น กระเทียม, โสม) อย่างน้อย 7-14 วันก่อนมาทำ เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้เลือดออกง่ายและเพิ่มอาการบวมช้ำหลังฉีดได้

2. ประคบเย็น

ทันทีหลังทำ สามารถใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณริมฝีปากเบา ๆ เป็นระยะ 15 นาที และทำซ้ำทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก จะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดในบริเวณนั้น ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดอาการบวมและลดความรู้สึกปวดตึงได้เป็นอย่างดี

3. รับประทานยาแก้ปวด

หากรู้สึกปวดมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล (Paracetamol) ได้ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ ห้าม รับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs (เช่น Ibuprofen หรือ Naproxen) เพราะอาจเพิ่มการช้ำได้

4. หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมหนัก

ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก เช่น การออกกำลังกายหนักๆ การซาวน่า หรือการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะความร้อนและกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนโลหิตจะกระตุ้นให้เกิดอาการบวมและอักเสบของริมฝีปากมากขึ้น ควรปล่อยให้ริมฝีปากได้พักเพื่อฟื้นตัวอย่างเต็มที่

เจ็บแบบไหนต้องรีบพบแพทย์?

โดยปกติอาการปวดบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าคุณพบอาการที่ผิดปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก คุณควรรีบติดต่อแพทย์ทันที อาการเหล่านี้บ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจร้ายแรงกว่าความปวดทั่วไป

1. อาการปวดรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

หากอาการปวดไม่ลดลงแม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว และความเจ็บปวดกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือการติดเชื้อ

2. ปากเปลี่ยนสี

หากพบว่าริมฝีปากหรือบริเวณใกล้เคียงมีสีซีด ขาว หรือกลายเป็นสีคล้ำ/ม่วง คล้ายร่างแห (Livedo Reticularis) ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการปวดอย่างรุนแรง นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่อาจบ่งชี้ถึงการอุดตันของเส้นเลือด (Vascular Occlusion) ต้องรีบพบแพทย์ทันที

3. อาการชาผิดปกติ

นอกเหนือจากการชาจากยาชาที่ใช้ในการฉีดแล้ว หากเกิดอาการชาที่รู้สึกเหมือนเป็นเหน็บ หรือชาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลังยาชาหมดฤทธิ์ ก็ควรปรึกษาแพทย์

สรุป

ฉีดปากเจ็บไหม? คำตอบคือ “เจ็บเล็กน้อยและเป็นความเจ็บที่ควบคุมได้” ด้วยตัวช่วยอย่างยาชาและเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง อาการปวดส่วนใหญ่จะบรรเทาลงภายใน 72 ชั่วโมง และจะหายเป็นปกติในเวลาอันสั้น สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง OHM Clinic เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม

หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บปวดหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือต้องการสอบถามข้อมูลราคาฉีดฟิลเลอร์ปากที่ OHM Clinic สามารถสอบถามได้ที่

LINE: LINE

สาขา เกษตรนวมินทร์

CALL: 085-1685656

สาขา 101 True digital Park

CALL: 085-1888855

สาขา Siam Square One

CALL : 083-9829292

ข้อมูลโดย

นายแพทย์ ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช

รายละเอียด