หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาผิวที่ท้าทายอย่าง ฝ้าดื้อยา รูขุมขนกว้าง หรือรอยหลุมสิว OHM Clinic มีคำตอบให้คุณ ด้วยนวัตกรรมที่น่าจับตามองในวงการผิวหนัง นั่นคือ Sylfirm X Plus ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับผลลัพธ์การรักษาให้เหนือกว่าเดิม บทความนี้จาก OHM Clinic จะเจาะลึกทุกแง่มุมของเครื่องมือนี้ ตั้งแต่หลักการทำงาน ไปจนถึงคำถามสำคัญที่ว่า Sylfirm X Plus ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และใครที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับการรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจและพร้อมรับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ทำความรู้จัก Sylfirm X Plus
ก่อนที่จะเจาะลึกไปที่ความสามารถในการรักษาของเครื่องมือนี้ เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของเทคโนโลยีกันก่อน ซึ่งจะทำให้คุณเห็นภาพว่าทำไม Sylfirm X Plus จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือยกกระชับทั่วไป
Sylfirm X Plus คืออะไร?
Sylfirm X Plus คือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยี Microneedle Radiofrequency (MNRF) หรือการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ผ่านเข็มขนาดเล็กมาก (Microneedle) ที่สามารถสอดลงไปใต้ชั้นผิวได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยเข็มเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นช่องทางในการนำส่งพลังงานความร้อนไปสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) โดยตรง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ รวมถึงจัดการกับปัญหาเซลล์เม็ดสีและเส้นเลือดฝอยผิดปกติที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่าง ๆ
หลักการทำงาน Dual Wave RF Microneedling
หัวใจของความแตกต่างและประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ Sylfirm X Plus คือเทคโนโลยี Dual Wave RF ซึ่งทำให้สามารถเลือกใช้โหมดการทำงานได้ถึง 8 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาผิวที่หลากหลาย โดยมีหลักการทำงานหลัก 2 รูปแบบ คือ
- Pulsed Wave (PW): เป็นการปล่อยพลังงาน RF แบบเป็นจังหวะสั้นๆ ซึ่งเน้นการรักษาความผิดปกติของชั้น Basal Membrane (ผิวหนังชั้นเชื่อมต่อระหว่างหนังกำพร้าและหนังแท้) และเส้นเลือดฝอยผิดปกติใต้ผิว จึงมีประสิทธิภาพสูงในการรักษา ฝ้า รอยแดง และ Rosacea
- Continuous Wave (CW): เป็นการปล่อยพลังงาน RF แบบต่อเนื่อง ซึ่งให้ความร้อนที่สม่ำเสมอในบริเวณกว้างใต้ผิว เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน การหดตัวของรูขุมขน และการฟื้นฟูรอยหลุมสิว
Sylfirm X Plus vs Sylfirm X รุ่นเดิม ต่างกันอย่างไร?
Sylfirm X Plus คือรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Sylfirm X เดิม โดยมีการปรับปรุงในส่วนของหัวเข็มที่บางลงและแข็งแรงขึ้น ทำให้เกิดความเจ็บปวดน้อยลง และเพิ่มความแม่นยำในการนำส่งพลังงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถปรับค่าพลังงานได้อย่างละเอียดกว่าเดิม ส่งผลให้การรักษาปัญหาผิวซับซ้อน เช่น ฝ้า และหลุมสิว มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Sylfirm X Plus ช่วยเรื่องอะไร?
นี่คือหัวข้อที่คุณอยากรู้มากที่สุด และเป็นจุดที่ทำให้เครื่องมือนี้แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ เพราะความสามารถในการรักษาที่ครอบคลุมปัญหาผิวที่หลากหลายได้ในเครื่องเดียว

1. รักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ
นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ Sylfirm X Plus เป็นที่ยอมรับทั่วโลก Sylfirm X Plus สามารถปล่อยพลังงาน Pulsed Wave ที่ความลึกแม่นยำ เพื่อจัดการกับเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติในชั้นผิวหนังแท้ และยังช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้น Basal Membrane ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดความเสียหายในผู้ป่วยฝ้า ทำให้โอกาสที่ฝ้าจะกลับมาเป็นซ้ำลดลงอย่างมาก จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหา ฝ้าดื้อยา หรือ ฝ้าเลือด
2. ลดขนาดรูขุมขนกว้าง
พลังงาน RF ที่ถูกส่งผ่านเข็มลงไปใต้ผิวจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ รูขุมขน ทำให้โครงสร้างผิวรอบรูขุมขนแข็งแรงและหดตัว ส่งผลให้รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
3. ปรับผิวให้เรียบเนียนตึงกระชับ
ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ทั่วทั้งบริเวณที่ทำการรักษา ผิวจึงดูแน่นขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น และมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
4. ฟื้นฟูหลุมสิวและรอยแผลเป็นจากสิวให้ตื้นขึ้น
การปล่อยพลังงาน Continuous Wave ลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ จะช่วยสลายพังผืดใต้รอยหลุมสิว และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่มาเติมเต็ม ทำให้รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้นและนุ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับผู้ที่มีปัญหานี้
5. ลดรอยแดงสิวและรอยเส้นเลือดฝอยผิดปกติ
Sylfirm X Plus มีความสามารถในการจัดการกับเส้นเลือดฝอยผิดปกติ (Telangiectasias) หรือรอยแดงสิวที่เกิดจากการอักเสบได้ดีมาก เนื่องจากพลังงาน Pulsed Wave สามารถทำงานจำเพาะเจาะจงกับปัจจัยที่ก่อให้เกิดรอยแดงเหล่านี้ได้โดยตรง
6. ยกกระชับผิวและกรอบหน้าอ่อน ๆ
แม้ว่าอาจจะไม่เทียบเท่าเครื่องยกกระชับกลุ่ม HIFU หรือ Ulthera แต่พลังงานความร้อนจาก RF ก็ช่วยให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและชั้นพังผืดใต้ผิว ส่งผลให้ผิวมีความกระชับและช่วยยกกรอบหน้าได้เล็กน้อย
7. เพิ่มความกระจ่างใส
เมื่อเซลล์เม็ดสีผิดปกติลดลง รูขุมขนกระชับ และคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ ผิวโดยรวมก็จะแลดูสุขภาพดี มีความเรียบเนียน สว่าง และกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
8. แก้ตาตก ยกหางตาขึ้น
Sylfirm X Plus ช่วยยกหางตา ที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กลับมาดูตึงกระชับ ได้รูปทรงที่สวยงามและคมชัดขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัด

Sylfirm X Plus เหมาะกับใคร?
ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้ Sylfirm X Plus เป็นคำตอบสำหรับหลายปัญหาผิว และเหมาะกับคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. ผู้มีปัญหาฝ้าทุกชนิด โดยเฉพาะ “ฝ้าดื้อยา” หรือ “ฝ้าเลือด”
หากคุณลองรักษาฝ้าด้วยวิธีอื่นมาแล้วไม่เห็นผล Sylfirm X Plus คือทางเลือกที่คุณควรพิจารณา เพราะเครื่องมือนี้สามารถลงลึกถึงต้นตอของฝ้า โดยเฉพาะการเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวที่ถูกทำลายให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
2. ผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง
เป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาหลุมสิวและต้องการให้รูขุมขนกระชับในคราวเดียวกัน เนื่องจากพลังงาน RF จะกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนอย่างเข้มข้น ทำให้ผิวบริเวณที่มีปัญหาดูเรียบเนียนขึ้น
3. ผู้ที่มีรอยแดงหรือรอยเส้นเลือดฝอยผิดปกติบนใบหน้า
เทคโนโลยี Pulsed Wave จะช่วยจัดการกับรอยแดงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยการปล่อยพลังงานจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเส้นเลือดฝอยที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของรอยแดงต่าง ๆ
4. ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยและริ้วรอยตื้น ๆ
ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อชะลอการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในอนาคต ทำให้ผิวได้รับความร้อนที่พอเหมาะจนเกิดการหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเฟิร์มกระชับขึ้น
5. ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
เนื่องจากการปล่อยพลังงานมีความแม่นยำสูงและมีระยะพักฟื้นสั้น จึงมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่ำและไม่ทำลายผิวชั้นบนมากเกินไป ทำให้ผู้ที่มีผิวเซนซิทีฟสามารถเข้ารับการรักษาได้
6. ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้แข็งแรงและกระจ่างใส
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวจากภายใน ทำให้ผิวทนทานต่อปัจจัยภายนอกได้ดีขึ้น และเมื่อผิวพื้นฐานดีขึ้น ความกระจ่างใสก็จะตามมาอย่างเป็นธรรมชาติ
ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ Sylfirm X Plus
ถึงแม้จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ ซึ่งแพทย์จะประเมินอย่างละเอียดก่อนการรักษา
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย
- ผู้ที่มีการติดเชื้อของผิวหนัง
- ผู้ที่มีแผลเปิดในบริเวณที่ทำการรักษา
- ผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรืออยู่ระหว่างการรักษา
- ผู้ที่เป็นคีลอยด์ได้ง่าย
- ผู้ที่กำลังใช้ยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาแอสไพริน
- ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่บริเวณใบหน้าหรือลำคอ
คำถามพบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ Sylfirm X Plus ช่วยเรื่องอะไร
เรารวบรวมคำถามยอดนิยมที่ผู้สนใจการรักษาด้วย Sylfirm X Plus มักจะสอบถามเป็นประจำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การเตรียมตัวและการคาดหวังผลลัพธ์เป็นไปอย่างถูกต้อง
1. Sylfirm X กี่ครั้งเห็นผล?
สำหรับปัญหาที่ไม่ซับซ้อน เช่น รูขุมขนและความกระจ่างใส บางท่านอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ ครั้งแรกที่ทำ แต่เพื่อให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนที่เพียงพอ และรักษาปัญหาที่ฝังลึก เช่น ฝ้าและหลุมสิว แพทย์มักแนะนำให้ทำต่อเนื่องเป็นคอร์ส
2. Sylfirm X Plus เห็นผลภายในกี่ครั้ง?
โดยทั่วไปแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำการรักษาประมาณ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างทุก 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
3. Sylfirm X Plus รักษาสิวได้ไหม?
Sylfirm X Plus ไม่ได้เน้นการรักษาสิวอักเสบโดยตรง แต่สามารถช่วยในเรื่องของการ ลดรอยแดงสิว และ รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงลดการอักเสบของต่อมไขมันบางชนิด นอกจากนี้การที่ผิวมีความแข็งแรงขึ้นและรูขุมขนกระชับขึ้น ก็เป็นผลดีในการลดโอกาสการเกิดสิวในระยะยาว
4. Sylfirm ต้องพักหน้าไหม?
การทำ Sylfirm X Plus มีระยะพักฟื้นที่สั้นมาก (Minimal Downtime) อาการรอยแดงมักจะหายไปภายใน 1-2 วัน และหากมีสะเก็ดเล็กๆ ในการรักษารอยหลุมสิว ก็จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วันในการหลุดลอกไปเอง คุณสามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบจะทันทีหลังทำ
5. Sylfirm X Plus VS Potenza VS Morpheus 8 เลือกแบบไหนดี ?
ทั้งสามเครื่องเป็นเทคโนโลยี RF Microneedling ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในการทำงานหลัก
- Sylfirm X Plus: โดดเด่นที่สุดในเรื่องการรักษา ฝ้า รอยแดง และเส้นเลือดฝอยผิดปกติ ด้วยเทคโนโลยี Pulsed Wave ที่ความแม่นยำสูง
- Potenza: มีหัวเข็มหลากหลาย และเทคโนโลยี Fusion Tip ที่ช่วยผลักตัวยาเข้าสู่ผิวได้ดี
- Morpheus 8: เน้นการลงลึกเพื่อการยกกระชับ และการสลายไขมันที่แก้มหรือเหนียงได้ดีกว่า การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ OHM Clinic เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำที่สุด ทั้งนี้ Sylfirm X ราคา ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วยเช่นกัน
6. การเตรียมตัวก่อนและหลังทำ Sylfirm X Plus ทำอย่างไร?
การเตรียมตัวที่เหมาะสมจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลดีที่สุด
- ก่อนทำ: ควรงดการใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ Retinoids/AHA/BHA อย่างน้อย 3-5 วัน และแจ้งประวัติการเป็นโรคเริมบริเวณใบหน้าให้แพทย์ทราบ
หลังทำ: หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด, ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ, และเน้นการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิว คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลผิวที่ถูกต้องได้ที่ หลังทำ Sylfirm X Plus
สรุป
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาปัญหาผิวที่ซับซ้อนและเรื้อรังอย่างฝ้า รูขุมขนกว้าง หรือหลุมสิว การรักษาด้วย บริการ Sylfirm X Plus ที่ OHM Clinic นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยี Dual Wave RF ที่สามารถปรับการรักษาได้ตามปัญหาผิวเฉพาะบุคคลอย่างแม่นยำ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ผิวที่แข็งแรง กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจจะเป็นก้าวสำคัญสู่ผิวในฝันของคุณ
LINE: LINE
สาขา เกษตรนวมินทร์
CALL: 085-1685656
สาขา 101 True digital Park
CALL: 085-1888855
สาขา Siam Square One
CALL : 083-9829292
ข้อมูลโดย

