ปัญหาถุงใต้ตา และวิธีแก้ไขลดถุงใต้ตา

หนึ่งในปัญหาสำคัญบนใบหน้าที่คนส่วนใหญ่กังวลใจก็คือ “ปัญหาถุงใต้ตาบวม” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูโทรม ทำให้ดูแก่กว่าวัย พร้อมทั้งยังสร้างปัญหาริ้วรอยร่องใต้ตาอีกด้วย

วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่าถุงใต้ตามีลักษณะอย่างไร อยู่ที่บริเวณใด พร้อมวิธีลดถุงใต้ตาหรือวิธีการรักษาถุงใต้ตาให้ดีขึ้นได้อย่างถูกวิธี 

ถุงใต้ตาบวมเกิดจากอะไร?

“ถุงใต้ตา” (Bags under eyes) มีลักษณะเป็นถุงที่มีอาการบวมนูนบริเวณใต้ตา ทำให้บริเวณใต้ตาดูบวม เป็นร่อง และมีสีคล้ำ สามารถพบได้ในหลายคนที่ใบหน้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัยทั้งในเพศชายและเพศหญิง

เมื่ออายุมากขึ้นเนื้อเยื่อรอบดวงตาของคนเราจะมีความอ่อนแรงลง ทั้งในส่วนของกล้ามเนื้อที่คอยพยุงเปลือกตาล่าง รวมไปถึงไขมันใต้ตาด้านในที่คอยซัพพอร์ตใต้ตาไหลออกมาที่ผิวด้านนอกเห็นเป็นถุงใต้ตาที่บวม ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาบวมนูนในภายหลัง

ถุงใต้ตามีกี่แบบ

ถุงใต้ตาแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ลักษณะ ได้แก่ ถุงใต้ตาเทียม และ ถุงใต้ตาแท้

  • ถุงใต้ตาเทียม

    ถุงใต้ตาเทียมเกิดจากอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ดวงตา ซึ่งสามารถเกิดได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขยี้ตาแรง การอดนอนเป็นระยะเวลานาน การร้องไห้ การใช้สายตาหนัก อาการภูมิแพ้ คามเครียด หรือระบบเลือดไหลเวียนไม่ดี ทำให้ส่งผลต่อถุงใต้ตาบวมง่าย

     

  • ถุงใต้ตาแท้
    อาการส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะถุงใต้ตาป่องนูนบริเวณใต้ดวงตา มีอาการบวมน้ำบริเวณถุงไขมันใต้ดวงตา สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์ ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อมีความผิดปกติ ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูโทรมได้ง่ายมากกว่า

วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ

  1. ลดถุงใต้ตาบวมด้วยถุงชา

    วิธีสุดคลาสสิคยอดฮิตที่ใครหลายคนทราบกันดีว่าถุงชาช่วยผ่อนคลายบริเวณรอบดวงตาได้ วิธีการก็คือ นำถุงชาที่ใช้แล้วแบบอุ่น ๆ ประคบบริเวณรอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จะช่วยลดอาการถุงใต้ตาบวมได้ เพราะในใบช้านั้นมีสารที่เรียกว่า แทนนินและคาเฟอีน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดถุงใต้ตาบวมได้

  2. ลดถุงใต้ตาบวมด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

    สาเหตุหลักที่ทำให้ขอบตาดำ ขอบตาคล้ำ ถุงใต้ตาบวม มักจะเกิดมากจากการอดหลับอดนอนหรือการนอนน้อยนั่นเอง ซึ่งวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เท่านี้ก็จะช่วยลดอาการถุงใต้ตาบวมลงได

  3. ลดถุงใต้ตาบวมด้วยการประคบเย็น

    วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติง่ายที่สุดคือ การประคบเย็น เราสามารถใช้น้ำแข็งหรือผ้าเย็นประคบรอบดวงตา และสามารถใช้ช้อนแช่เย็นประคบดวงตาได้เช่นกัน โดยประคบทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เท่านี้ก็จะช่วยผ่อนคลายดวงตาและช่วยลดถุงใต้ตาบวมลงได้

วิธีลดถุงใต้ตาด้วยหัตถการทางการแพทย์

การแก้ปัญหาถุงใต้ตาบวม ปัจจุบันมีหัตถการแพทย์หลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด โดยให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. รักษาถุงใต้ตาด้วยการฉีดสารเติมเต็ม

    การฉีดสารเติมเต็มบริเวณรอบ ๆ ถุงใต้ตา เพื่อให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูเต็มขึ้น เรียบเนียนขึ้น ช่วยลดขนาดของถุงบริเวณใต้ตาได้ โดยมี 2 แบบลักษณะด้วยกัน คือ

    • การฉีดฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid: HA) มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี
    • การฉีดไขมันของตนเอง หรือที่เรียกว่า “ฉีดไขมันหน้าเด็ก” มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการแพ้น้อย และมีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะปลูกถ่ายติดและอยู่ได้ตลอดชีวิต
  2. รักษาถุงใต้ตาด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF)

    คลื่นความถี่วิทยุ หรือ “RF” เป็นหนึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถช่วยสลายไขมันและเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิว กระตุ้นเพื่อเสริมคอลลาเจนที่จะช่วยในเรื่องของการเติมเต็ม บำรุงพร้อมยกกระชับผิวหนังที่เหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงตา ให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น เช่น Thermage, Thermage CPT และ Thermage FLX

  3. รักษาถุงใต้ตาด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound)

    คลื่นอัลตราซาวด์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีกระชับผิวที่ได้รับความนิยมทั่วโลก สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดยกกระชับผิว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้บางส่วนเหมือนกับการรักษาถุงใต้ตาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เช่น Ulthera หรือ HIFU Ultraformer เป็นต้น

  4. รักษาถุงใต้ตาด้วยการการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา

    การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา เป็นวิธีรักษาถุงใต้ตาที่ดีที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาและเก็บผิวหนังส่วนเกินออก เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ถุงไขมันใต้ตาเยอะ หรือถุงใต้ตาบวมนูนมาก ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น ๆ

  5. รักษาถุงใต้ตาด้วยเลเซอร์ถุงใต้ตา

    เป็นวิธีรักษาถุงใต้ตาด้วยเทคโนโลยีแสงเลเซอร์ ให้ผลลัพธ์คล้ายกับการผ่าตัดถุงใต้ตา แต่หลังทำจะไม่เกิดรอยแผล ไม่มีอาการบวมช้ำ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมาะกับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวมไม่เยอะมาก หรือเหมาะสำหรับคนที่อายุยังน้อย

  6. รักษาถุงใต้ตาด้วยการดูดไขมัน

    เป็นการผ่าตัดเพื่อลดถุงใต้ตาอีกวิธีที่เห็นผลชัดเจน วิธีนี้จะเป็นการทำรอยแผลด้านในเปลือกตาและไม่ต้องตัดไหม

    ถุงใต้ตาบวมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก เพื่อดูแลบริเวณผิวรอบดวงตาให้สวยงามเปล่งปลั่งสดใสอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาโดยการปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น แต่ถ้าหากถุงใต้ตาบวมนั้นเริ่มหย่อนคล้อยมากและมีไขมันถุงใต้ตาเยอะ แนะนำว่าให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการปรึกษาและประเมินจากอาการของแต่ละบุคคล เพราะการรักษาด้วยวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยแก้ไขถุงใต้ตาบวมให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน